ประกาศ ข่าวสาร
ลำไส้เล็กอักเสบ และแผลอักเสบในลำไส้ใหญ่หายได้ด้วยวิธีธรรมชาติ
เนื้อความที่ส่งมานี้อาจมีข้อผิ ดพลาด กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่าน
โรคลำไส้อักเสบส่งผลกระทบอย่ างยิ่งต่อคุณภาพชีวิต อย่างไรก็ตาม การบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติต่ อไปนี้ช่วยได้ โรคลำไส้เกิดได้กับคนทุกวัย และนับวันจะก่อให้เกิดปั ญหามากขึ้น จากรายงานของ the National Association for Colitis and Crohn’s Disease (NACC) ระบุว่า คนอังกฤษทุก 1,000 คนจะป่วยเป็นโรคลำไส้เล็กอักเสบ 1 คน ขณะที่มีคนนับแสนป่วยเป็ นโรคแผลอักเสบในลำไส้ใหญ่ โรคลำไส้อักเสบทั้งสอง ชนิดนี้เกิดได้กับคน ทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนใหญ่พบในคนอายุระหว่าง 15-40 ปี แม้จะมีการศึกษาวิจัยอย่างกว้ างขวาง แต่ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด การรักษาด้วยการแพทย์แผนใหม่ จะใช้วิธีลดการอักเสบ นั่นคือแพทย์จะให้ยาสเตียรอยด์ เพื่อลดอาการบวม ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อ และยาลดอาการท้องเสียและโลหิ ตจาง ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจต้องใช้วิธีผ่าตัดเอาอวัยวะ บางส่วนที่เกี่ยวกับการย่ อยอาหารออก อย่างไรก็ตาม การบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติก็ช่ วยได้เช่นกัน โรคลำไส้เล็กอักเสบ เกิดจากการอักเสบในระบบย่ อยอาหาร ทำให้ย่อยอาหารได้ไม่ปกติมั กพบในลำไส้เล็ก ผู้ป่วยมักมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย โดยมีเลือดปนออกมากับอุจจาระ บางครั้งท้องผูก มีไข้ อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน และมักเป็นโลหิตจาง เนื่องจากลำไส้ไม่ดูดซึ มสารอาหาร โรคลำ ไส้เล็กอักเสบพบมากในเพศหญิ งและคนที่สูบบุหรี่ สาเหตุของการเกิดโรคยังไม่ ทราบแน่ชัด โรคแผลอักเสบในลำไส้ใหญ่ เกิดจากการที่ผนังลำไส้ใหญ่เกิ ดการอักเสบ และกลายเป็นแผลเล็ก ๆ อาการบวมหมายถึงการที่ลำไส้ ใหญ่ไม่สามารถดูดซึมน้ำจากอุ จจาระ จึงทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาการบวมยังเกิดจากการที่ลำไส้ ใหญ่ ไม่สามารถเก็บของเสียได้มากเหมื อนปกติ คุณจึงต้องวิ่งเข้าห้องน้ำบ่อย อุจจาระอาจมีเลือดและเมื อกปนออกมา โรคนี้เกิดได้ทั้งหญิงและชาย หลักฐานระบุว่าคนที่ป่วยเป็ นโรคนี้มักอยู่ในเขตเมืองมากกว่ าชนบท บำบัด ด้วยธรรมชาติ 1.ฝังเข็ม จาการวิจัยพบว่า การฝังเข็มช่วยบรรเทาอาการท้ องเสียอย่างรุนแรงอย่างได้ผล ทำให้สุขภาพดีขึ้น "การฝังเข็มช่วยแก้ ปวด ลดการอักเสบ ควบคุมการทำงานของลำไส้ให้เป็ นปกติ" ริชาร์ด แบล็กเวลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านฝังเข็มกล่าว "เพราะการฝังเข็มช่วยแก้ ไขความไม่สมดุลการ ทำงานของลำไส้ ซึ่งจะส่งผลดีในระยะยาว อาการจะดีขึ้นหลังผ่านการฝังเข็ ม 6 ครั้ง แต่อาจจำเป็นต้องบำบัดหลายครั้ งและใช้เวลาเป็นเดือน" 2.โภชนาการ "การเปลี่ยนแปลงอาหารการกิน ช่วยได้" เอียน มาร์เบอร์ นักโภชนาการของ Health Plus กล่าว "อาหารบางชนิดทำให้ระบบย่ อยทำงานหนัก จึงเกิดการอักเสบ อย่าทำให้โรคลำอักเสบทั้งสองชนิ ดนี้มีอาการรุนแรงขึ้น โดยการกินให้น้อย แต่กินบ่อย ๆ ทั้งนี้เพราะร่างกายสามารถย่ อยอาหารปริมาณน้อย ๆ ได้ง่ายกว่า อาหารโพรไบโอติกมีประโยชน์ แต่ควรกินในรูปของอาหารเสริ มมากกว่าในรูปของเครื่องดื่มที่ มีรสหวาน" โรคลำไส้เล็กอักเสบ หลีกเลี่ยงผลไม้รสเปรี้ยว มะเขือเทศ อาหารที่มีรสเผ็ด กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รับประทาน มันฝรั่งปอกเปลือก ปลานึ่ง โดยเฉพาะปลาที่มีน้ำมัน เป็ดไก่ ไข่ ผักเช่น ผักโขมหรือถั่วที่มีเมล็ดกลม (peas) โรคแผลอักเสบในลำไส้ใหญ่ หลีกเลี่ยงโฮลเกรน ไฟเบอร์ ไม่ละลายน้ำเช่น ข้าวโพดหวาน ผักที่มีแป้งสูงเช่น พาร์สนิป (parsnip) ถั่วที่มีเปลือกแข็ง (ruts) และเมล็ดพืชต่าง ๆ คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี เช่น บิสะกิด พาสต้า และขนมปัง รับประทาน ไฟเบอร์ละลายน้ำ เช่น ผักใบเขียว อโรวคาโด แยม น้ำมันปลาที่อุดมด้วยไขมัน โอเมก้า 3 ข้าวขัดขาวกระเทียม 3.สมุนไพร "มีสมุนไพรมากมาย ที่ช่วยรักษาโรคลำไส้เล็กอั กเสบและโรคแผลอักเสบในลำไส้ใหญ่ ลดการพึ่งยาสเตียรอยด์" ดีแอตคินสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์สมุ นไพร "คอมเฟรย์ (comfrey) ช่วยรั กษาและบรรเทาอาการระคายเคื องของเนื้อเยื่อ ชะเอมช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้ างสเตียรอยด์ตามธรรมชาติของตั วเอง โกลเด้นซีล (goldenseal) ซึ่งมีสรรพคุณต้านแบคทีเรียช่ วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิด้ านทาน แพลนทิน (plantain-กล้วยแอฟริกาชนิดหนึ่ ง) ช่วยลดการผลิตน้ำเมือก ก่อนใช้ควรไปพบผู้เชี่ยวชาญด้ านสมุนไพรเพื่อให้ตรวจวินิจฉัย" ดีแนะให้ใช้ผง slippery elm 1 ช้อนชาผสมกับน้ำเย็น คนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปชงกับน้ำร้ อนประมาณครึ่งลิตรผสมกับผงลูกจั นทน์เทศ คนให้เข้ากัน "สมุนไพรช่วยรักษาแผลอั กเสบในลำไส้ใหญ่" แจ็กกี้ ฟอร์เรสต์ วัย 43 ปี จากเบอร์วิคเชียร์ ป่วยเป็นโรคแผลอักเสบในลำไส้ ใหญ่มานาน 10 เดือน เธอพึ่งสมุนไพรในการรักษา "ฉันมีอาการท้องเสี ยและปวดตะคริวที่ท้องมานานกว่ าหนึ่งปี ก่อนจะมารู้ว่าตัวเองป่วยเป็ นโรคแผลอักเสบในลำไส้ใหญ่ หมอให้ยาแก้อักเสบและสเตียรอยด์ เพื่อควบคุมอาการ แต่ยาทำให้ฉันมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนและอาหารไม่ย่อย พอไปตรวจก็พบว่ายามีผลกระทบกั บตับของฉัน ฉันเลยต้องหยุดทานยาต่อมาฉันได้ ไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร เขาแนะให้ฉันทานผง slippery elm ร่วมกับสมุนไพรอื่น ๆ กระเทียม คาโมไมล์ ชะเอม และยาร์โรว์ (yarrow) ซึ่งช่วยให้อาการดีขึ้น เมื่อก่อนฉันเคยชอบกินขนมปั งและพาสต้า แต่ตอนนี้ฉันหันมากิ นอาหารปลอดแป้งสาลี และเปลี่ยนนิสัยการกิน โดยกินน้อย ๆ แต่กินบ่อย ๆ เดี๋ยวนี้ฉันไม่ต้องพึ่งยาแผนปั จจุบันอีกแล้ว แถมอาการก็ไม่กำเริบเวลากิ นอะไรที่ไม่ควรกิน" 4.อาหารเสริม "อาหารเสริมช่วยรักษาโรคลำไส้ ทั้งสอง ชนิดได้" พอล แชมเบอร์เลน ผู้เชี่ยวชาญของ Health Plus กล่าว ทานอาหารเสริมประเภทวิติมนรวม และเกลือแร่เป็นประจำ เพื่อชดเชยสารอาหารที่ขาดไปเนื่ องจากระบบย่อยอาหารไม่ปกติ ทานอาหารเสริมจำพวกน้ำมันปลา (ไม่นับน้ำมันตับปลา) วันละ 1,000-2,500 มิลลิกรัมทุกวัน จะทำให้ร่างกายได้รับกรดไขมั นโอเมก้า 3 ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ การขาดสังกะสีก็ก่อให้เกิดปั ญหาเช่นกัน ควรทานอาหารเสริมจำพวก zinc picolinate วันละ 25 มิลลิกรัม จะช่วยรักษาเนื้อเยื่อและเสริ มสร้างภูมิต้านทาน psyllium husks เป็นแหล่งไฟเบอร์ชั้นดี ควรวันละ 1 ช้อนโต๊ะ ข้อควรระวังคือ psyllium husks ดูดซึมน้ำในปริมาณมาก ดังนั้นเวลาทานจึงควรดื่มน้ ำตามมาก ๆ อาหารเสริมชนิดเม็ดที่มีเอนไซม์ ย่อยอาหาร จะช่วยให้ตับอ่อนสามารถย่ อยโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตได้ดี เบทาอีนไฮโดรคลอไรด์ (betaine hydrochloride) ชนิดเม็ดช่วยให้กระเพาะอาหารย่ อยโปรตีนได้ดี ซึ่งจะทำให้ลำไส้เล็กและลำไส้ ใหญ่ทำงานหนักน้อยลง 5.นวดกดจุดฝ่าเท้า "การนวดกระตุ้นในตำแหน่งที่ถู กต้องจะช่ วยบรรเทาอาการของโรคลำไส้ได้" เรเน่ แทนเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการนวดกดจุดฝ่ าเท้ากล่าว ให้หาส่วนที่เป็นเนื้อนุ่ม ๆ ของฝ่าเท้า ตั้งอยู่ระหว่างส่วนโค้งและส้ นเท้า วางนิ้วมือสองนิ้วบนจุดดังกล่าว จากนั้นให้ใช้นิ้วดังกล่าวเดิ นไต่ข้ามไปยังนิ้วหัวแม่เท้า ต่อไปยังนิ้วก้อย จากนั้นยกนิ้วข้างหนึ่งขึ้นชั่ วครู่ และเพื่อให้ระบบย่ อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ให้ใช้นิ้วเดินไต่จากด้านหลั งไปด้านหน้า โดยเริ่มจากฝ่าเท้าไปยังหลังเท้ า ระหว่างจุดกลม ๆ ใต้นิ้วหัวแม่เท้าและส่วนโค้ งของฝ่าเท้า ทำท่าละ 3 ครั้ง วันละ 2 เวลา หากอาการรุนแรง เมื่ออาการดีขึ้น ให้ลดเหลือวันละครั้ง